
Road to Premier league ศึกฟาดแข่งเวทีรองของเกาะอังกฤษ เพื่อเฟ้นหาทีม ที่จะขึ้นไปบรรเลงฝีเท้ากันในเวที พรีเมียร์ลีก ต่อไป !!
Road to Premier league ศึก อีเอฟแอลแชมเปี้ยนชิพ EFL Championship หรือที่แฟนบอลรู้จักกันในชื่อ แชมเปี้ยนชิพ หรือเรียกว่า สกายเบ็ตแชมเปียนชิพ ตามชื่อผู้สปอนเซอร์ เป็นลีกฟุตบอลระดับ 2 รองจาก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ จัดโดย EFL ของสมาคมฟุตบอลอังกฤษ
สำหรับการแข่งขัน อีเอฟแอล แชมเปียนชิพ EFL Championship ถึงจะเป็นรายการระดับรอง แต่นี่คือลีกฟุตบอล ที่สามารถทำรายสูงสุดเป็นอันดับ 6 ของโลก ความดุเดือดเชือดเฉือนกันอย่างสนุกเล้าใจ ในทุก ๆ ฤดูกาล เพื่อแย่งชิงพื้นที่ บนตารางอันดับเพื่อขึ้นไปเล่นยังลีกสูงสุด อย่าง พรีเมียร์ลีก (Premier League) ที่ทุกทีมหมายปอง กับเงินรางวัล ที่มีมูลค่าที่มหาศาล
Road to Premier league มูลค่าที่มหาศาลของลีก แชมเปี้ยนชิพ
บทความกีฬาที่น่าสนใจ จากข้อมูลของสถาบันบัญชีชื่อดังอย่าง Deloitte ที่ได้เปิดเผยว่า ในฤดูกาล 2016-17 ทีมทั้ง 24 ทีม จากศึก EFL แชมเปี้ยนชิพ ทำรายได้รวมกันได้ถึง 720 ล้านปอนด์ หรือ 835 ล้านยูโร หรือ 29,000 ล้านบาท เป็นรองแค่ 5 ลีกหลักของยุโรป อย่าง พรีเมียร์ลีก, บุนเดสลีกา เยอรมัน, ลาลีกา สเปน, กัลโช เซเรีย อา อิตาลี่ และ ลีกเอิง ฝรั่งเศส เท่านั้น
โดยแชมป์และรองแชมป์ (ทีมอันดับ 1 และ 2) จะได้เลื่อนชั้นไปเล่นในเวที พรีเมียร์ลีก โดยอัตโนมัติ และทีมอันดับ 3 ถึงอันดับ 6 จำนวน 4 ทีมนั้น จะได้สิทธิ์เตะเพลย์ออฟ เพื่อหาแชมป์เพลย์ออฟขึ้นชั้น ไปเล่นในพรีเมียร์ลีกอีก 1 ทีม ในขณะเดียวกัน ทีมอันดับ 18, 19, 20 ในพรีเมียร์ลีก จะต้องตกชั้นลงมาเล่นในลีกแชมเปี้ยนชิพแทน
สถานะการณ์พื้นที่ 2 อันดับบน ที่สามารถขึ้นสู่เวที พรีเมียร์ลีก โดยอัตโนมัติ
“เจ้าสัวน้อย” ฟูแล่ม
ที่ฟอร์มกำลังร้อนแรงแบบสุด ๆ ณ ขณะนี้ เกาะบัลลังก์จ่าฝูง แชมป์เปี้ยนชิพ อย่างเหนียวแน่น ด้วยผลงานระเบิดเขา เผากระท่อม ถล่มจัดชุดใหญ่ ประเคนใส่คู่แข่งอย่างอย่างไม่ยั้งมือ
โดยทีมของกุนซือหนุ่มชาวโปรตุกิส วัย 44 ปี อย่าง มาร์โก ซิลวา นำทัพเจ้าสัวน้อย ยิงถล่มคู่แข่งไปแล้วทั้งหมด 73 ประตู จาก 27 เกมการแข่งขัน มี 57 คะแนน
โดยมีดาวซัลโวของทีมอย่าง ออล็กซานดาร์ มิโตรวิช ศูนย์หน้าทีมชาติเซอร์เบีย ที่ตอนนี้ยิงไปแล้ว 27 ประตู จากการลงสนาม 25 นัด
ทีมเศรษฐีน้อยจากกรุงลอนดอนนั้น ค่อย ๆ ทิ้งแต่มห่าง นำอันดับ 2 และอันดับ 3 อย่าง บอร์นมัธ และ แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส ไปแล้ว 8 คะแนน ดูทรงแล้วก็ดูสดใส่ในเส้นทางที่จะกลับ ไปเป็นน้องใหม่ในเวทีลีกสูงสุดอีกครั้งอย่างไม่จากเย็น
- “เทพีแดงดำ” บอร์นมัธ
โดยการกุมทัพของกุนซือหนุ่ม วัย 41 ปี อย่าง สก็อต ปาร์คเกอร์
ยังกินบุญเก่าจากช่วงต้องฤดูกาลได้อยู่ หลังจะมาหลุดฟอร์ม ออกทะเลไปซะดื้อ ๆ จากที่มีลุ้นขึ้นจ่าฝูงอยู่ไม่นาน
ก็โดน ฟูแล่ม นั้นนำห่างไปอีก ณ ตอนนี้เก็บชัยชนะได้เพียง 2 นัด จาก 9 นัดหลัง
มีดาวยิงปรเจำทีมอย่าง ดอมินิก โซลังเก้ ดีกรีอดีตเด็กปั้นของเชลซี และอดีตดาวรุ่งของลิเวอร์พูล ยิงไปแล้ว 18 ประตู จากการลงสนาม 27 นัด นำทัพเทพีแดงดำ รั้งรองจ่าฝูง ที่กำลังเบียด กับทางทัพ “กุกราบไฟ” ทีมอันดับ 3 ที่คะแนนเท่ากัน ณ ตอนนี้
บอร์นมัธ ต้องการเก็บชัยชนะอย่างต่อเนื่อง และรักษาฟอร์มให้สม่ำเสมอ ในแมตช์การแข่งขันที่เหลือในฤดูกาลนี้ เพื่อการันตีอันดับ 2 เป็นอย่างน้อยของตารางคะแนน เพื่อตั๋วสู่ศึก พรีเมียร์ลีก ฤดูกาลหน้า
“กุหลาบไฟ” แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส
จากทีมที่เกาะอยู่กลางตาราง เมื่อช่วงต้นฤดูกาล โทนี่ โมว์เบรย์ เฮดโค้ชวัย 58 ปี คุมทัพ “กุหลาบไฟ” ไล่เก็บแต้ม สะสมคะแนน จนมาอยู่อันดับ 3 ของแชมป์เปี้ยนชิพ ณ ขณะนี้ ทำคะแนนตีคู่อยู่กับ บอร์นมัธ ที่มีคะแนนเท่ากัน แต่ต่างกันตรงลูกได้เสียที่เป็นรอง
เป็น 10 ปีที่ห่างเหินจากเวทีลีกสูงสุด และในฐานะอดีตแชมป์พรีเมียร์ลีกฤดูกาล 1994-1995 โดยแฟนบอลยุคนั้นยังคงจำกันได้ไม่เคยลืม และคงหวังเป็นอย่างยิ่งว่า จะกลับมา รียูเนี่ยนใหม่ อย่างเดียวกับ ลีดส์ ยูไนเต็ด เพื่อนเก่าร่วมลีกในยุคนั้น ซึ่งกลับมาเล่นในพรีเมียร์ลีก ได้ 2 ฤดูกาลแล้ว
จากโอกาสที่ยังเปิดกว้าง ใกล้ถึงโค้งสุดท้ายแล้วทุกที แบล็กเบิร์น ก็ต้องรีบทำแต้มให้รั้งอันดับ 2 เป็นอย่างน้อย เพื่อการันตีขึ้นชั้นโดยตรง และไม่ตกไปเสี่ยงในการลุ้น เพลย์อ๊อฟ ซึ้งจะเป็นอะไรที่กดดันมาก ๆ ในแต่ละแมตช์ที่จะเจอเป็นแน่
- “ทหารเสือราชินี” ควีนส์พาร์ก เรนเจอส์
ทีมดังในอดีตอีก 1 ทีม ที่ตกชั้นลงมาอีกรอบเมื่อ ฤดูกาล 2015-2016 จนมาถึงฤดูกาลนี้ฟอร์มของทีมดีพอที่จะมีลุ้นเลื่อนชั้นขึ้นกลับไปเล่น บนลีกสูงสุดอีกครั้ง
โดยลูกทีมของ มาร์ค วอร์เบอร์ตัน วัย 59 ปี คุมทัพ QPR ทำผลงานได้อย่างดีเยี่ยมใน 8 นัดหลัง สามารถเก็บชัยชนะไปได้ถึง 6 เกม โดยแพ้เพียง 2 นัด ขยับอันดับรั้งที่ 4 ของตาราง และยังมีโอกาสจะขึ้นไปถึงอันดับ 2 ในโคว์ต้าเลื่อนชั้นอัตโนมัติ โดยไม่ต้องเหนื่อยไปเตะเพลย์อ๊อฟให้เสียเวลา
แคง เดอะ คองเคอเรอร์