
รวมข่าวสารบอล พรีเมียรลีกคัมแบ็ก ลุ้นแชมป์ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก 2021-22
รวมข่าวสารบอล บทความกีฬาที่น่าสนใจ ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2021-2022 กำลังจะกลับมาเตะอีกครั้ง หลังจากหลีกทางให้นักเตะได้ไปรับใช้ชาติกันมา มองกลับมาที่ตารางคะแนนตอนนี้ ทีมเรือใบ แมนเชสเตอร์ซิตี้ นำอยู่โด่งอยู่ที่ 57 แต้มทิ้งห่างทีม อันดับ 2 อยู่ที่ 9 แต้ม
ถึงแม้ทีมของ เป๊ป จะยังคงฟอร์มร้อนแรง และถูกยกย่องจากทั้งแฟนบอล รวมทั้งสื่อต่างๆ ว่าน่าจะเก็บแชมป์อีกสมัยได้ไม่ยาก แต่ถ้ามองไปที่ตารางคะแนนในปัจจุบัน เรายังไม่สามารถกาชื่อของทีมอื่นๆออกไปได้ในเวลานี้ ด้วยระยะห่างเพียง 9 แต้ม แต่มีนัดลงแข่ง มากกว่าทีมอันดับ 2 อย่าง ลิเวอร์พูล อยู่อีก 1 นัด
ส่วนอีก 2 ทีมใหญ่อย่าง สิงห์บลู เชลซี และ ผีแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก็ยังไล่ตามมาที่อันดับ 3 และ 4 ตามลำดับ ดูจากฟอร์มและองค์ประกอบของทีม อาจจะดูลุ้นยากสักหน่อยสำหรับแฟนๆผีแดง ยิ่งถ้ามองดูสภาพทีมตอนนี้ ยังไม่รวมปัญหาต่างๆในสโมสรที่ยังไม่ได้สะสาง ต่างกับเชลซี ที่แม้ฟอร์มจะตกไปบ้างแต่ก็ยังอยู่ในเส้นทางที่ดูดีกว่า
เปิดแผลทีมใหญ่ เรือใบนอนมา หรือหงส์แดงแซงทางโค้ง
ตลาดซื้อขายนักเตะช่วงเดือนมกราคม เพิ่งสิ้นสุดลงไป 2 ทีมเต็ง อย่าง แมนซิตี้ และ ลิเวอร์พูล ต่างได้นักเตะมาเสริมขุมกำลังกันทั้งคู่ อย่างทีมเรือใบได้ จูเลียน อัลวาเรซ (ริเวอร์เพลท, 14.1 ล้านปอนด์ ปล่อยให้สังกัดเดิมยืมตัวจนจบฤดูกาล) ส่วน หงส์แดง ไปสอย หลุยส์ ดิอาซ (ปอร์โต้, 50 ล้านปอนด์)
ขอเริ่มสะกิดแผลเบาๆ ที่ทีมหัวตารางอย่าง เรือใบ แมนเชสเตอร์ซิตี้
หนึ่งในปัญหาสำคัญที่สุดของ เป๊ป กวาร์ดิโอลา ยังคงเป็นเรื่องที่พวกเขาไม่มีกองหน้าอาชีพอยู่ในทีม และต้องสลับนักเตะกันขึ้นมายืนในตำแหน่งนี้อยู่แทบทุกสัปดาห์ ถึงแม้สตาร์ในทีมสามารถทดแทนกันได้หมด แต่ปัจจุบันพวกเขาทำประตูได้น้อยกว่าทีมอันดับ 2 ของ เจอร์เก้น คล็อปป์ อยู่ 3 ประตู โดยลงแข่งมากกว่า 1 นัด
จากชัยชนะ 18 นัด เสมอ 3 แพ้ 2 แต่ถ้ามองลึกลงไป 6 นัดล่าสุด มีเพียงแค่ 2 นัด ที่สามารถชนะคู่แข่งได้มากกว่า 1 ลูก
นักเตะที่ยิงประตูได้สูงที่สุดในทีมเวลานี้ คือ เบอร์นาโด้ ซิลวา และ ราฮีม สเตอร์ลิง อยู่ที่คนละ 7 ประตู
จากผลงานดังกล่าว ทำให้เห็นได้ชัดว่าซิตี้อาจจำเป็นต้องปิดเกมให้ดีกว่านี้ ต่อให้เชื่อมั่นในระบบทีม และศักยภาพของนักเตะเพียงใด แต่การที่ทีมขาด ศูนย์หน้าตัวเป้า ที่มีสัญชาตญาณในการจบสกอร์แบบธรรมชาติ ก็อาจส่งผลต่อทีมในระยะยาวได้ ถ้าต้องมีการโรเตชั่นบ่อยๆ หรือ ประสบปัญหานักเตะบาดเจ็บ อาจทำให้เกมส์รุกสะดุดได้
ส่วนอีกทีมเต็ง อย่าง หงส์แดง ลิเวอร์พูล ในฤดูกาล 2021-22 พวกเขาก็ยังคงร้อนแรงในเรื่องการยิงประตูโดยเฉพาะ บังโม โมฮาเหม็ด ซาล่าห์ ที่ล่าสุดกดไปคนเดียว 16 เม็ด จากการลงสนาม 20 นัด แต่เบื้องหลังทีมยังคงมีปัญหาในความเด็ดขาด
ฟังแล้วอาจดูสับสน ยิงเยอะแต่ยังไม่เด็ดขาดยังไง มองย้อนกลับไป มีหลายนัดที่ทีมน่าจะเก็บสามแต้มได้ไม่ยาก แต่ทีมก็ไปพลาดเสมอ อย่างฤดูกาลนี้ทีมหงส์แดง เสมอไป 6 นัดเป็นการเสมอกับทีมอย่าง เชลซี 1-1 (เหย้า) 2-2 (เยือน) , เบรนท์ฟอร์ด 3-3, แมนซิตี้ 2-2, ไบร์ทตัน 2-2, สเปอร์ 2-2, ซึ่งเป็นแบ่งเป็นทีมใหญ่ถึง 4 นัด จาก 6 นัดที่ทีมเก็บได้เพียงแค่แต้มเดียว
แนวรุกของทีมยังคงจัดจ้าน ต่อให้ขาดสกอร์จาก เฟอร์มิโน่ไปบางส่วน ก็ยังได้ นักเตะอย่าง ดิโอโก้ โจต้า ที่ฤดูกาลนี้ กดในลีกไปแล้ว 10 ลูก เป็นรองแค่ซาล่าห์คนเดียว ปัญหาหลักๆของทีมน่าจะเป็นเรื่องคุณภาพของตัวสำรอง หรือ ขนาดของทีม ที่ยังเป็นรองซิตี้อยู่ในจุดนี้
ดูจากระยะห่างของคะแนนตารางและการเสริมทีมช่วงมกราคม ทีมของคล็อปได้นักเตะใหม่ที่ดูดีมีอนาคตอย่าง หลุยส์ ดิอาซ เข้ามาเสริม ก็ต้องติดตามดูต่อไปว่าปัญหาเรื่องอะไหล่ของทีมที่เคยมีปัญหา และความเด็ดขาดของทีม จะดีขึ้นมากแค่ไหน
รวมข่าวสารบอล อัพเดตทีมที่เหลือ ยังสู้ไหวไหม?
ถ้าจะมองข้ามทีมอันดับที่ 3 อย่าง สิงห์บลู เชลซี คงดูใจร้ายเกินไป แม้อาจจะไม่ใช่งานที่ง่าย เพราะเวลานี้ทีมแข่งไปมากกว่าทีมหัวตารางอย่าง แมนซิตี้ อยู่ 1 นัด แต่มีแต้มตามหลังอยู่ถึง 10 คะแนน จากตอนแรกที่เปิดตัวมาอย่างสวยหรู จนแฟนบอลต่างพากันฝันหวาน ว่าถ้วยแชมป์ฤดูกาลนี้ อาจไม่ไกลเกินเอื้อมที่จะหวัง ไม่ว่าจะเป็นการเสริมทัพ บวกกับขุมกำลังเดิมที่มี แต่แล้วแผลก็เริ่มเปิดชัดเจน
โรมาโน ลูกากู ย้ายกลับมาสู่ทีมอีกครั้งด้วยค่าตัวมหาศาล 97.5 ล้านปอนด์ เซ็นสัญญาร่วมงานกัน 5 ปี หลังจากไปยิงกระจายกับ อินเตอร์ มิลาน เมื่อฤดูกาลก่อน แต่แล้วสุดท้าย คนที่ทำประตูให้ทีมมากที่สุดเวลานี้กลับกลายเป็น เมสัน เมาท์
แข้งผู้ดีรายนี้ กดไป 7 ประตู จากการลงสนามไป 16 นัด สำรอง 5 นัด สวนทางกับ กองหน้าจากเบลเยี่ยม ที่ทีมทุ่มซื้อมา ที่ยิ่งเล่นยิ่งได้โอกาสน้อยลง ปัจจุบันยิงในลีกไปได้ 5 ลูก
อาจจะด้วยเป็นเพราะแผนการเล่นของ โทมัส ทูเคิ่ล ที่มักจะไม่ใช้กองหน้าตัวเป้า ตามสไตล์ของบอลยุคใหม่ หรือ ที่ต้องปรับแบบนี้เพราะสไตล์การเล่นของ ลูกากู ยังไม่สอดคล้องกับระบบทีม ก็ต้องคอยติดตามดูกันไป กองหน้าอีกรายอย่าง ติโม แวร์เนอร์ ก็แทบจะลืมเรื่องการยิงประตูให้ทีมไปแล้ว หลังเพิ่งยิงไปเพียงลูกเดียวในลีก เรียกได้ว่า กองหลังอย่าง รูดิเกอร์ ยังยิงได้มากกว่าอีก
ส่วนทีมที่มรสุมกำลังเข้าอย่างต่อเนื่อง อันดับ 4 อย่าง ปีศาจแดง แมนยู ฤดุกาลนี้จะเป็นปีชงของทีมหรือไม่ต้องตามดู ปัจจุบันมีแต้มที่สูงกว่าอันดับ 5 อย่าง ขุนค้อน เวสต์แฮม อยู่ 1 คะแนน โดยแข่งมากกว่า 1 นัด
เหล่าสาวกผีแดงปีนี้ คงออกอาการเพลียกันทั่วหน้า ปัญหาต่างๆไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเปลี่ยนแปลงตัวผู้จัดการทีม การถูกตั้งคำถามถึงแผนการเล่น ปัญหาระบบการฝึกซ้อม ทีมเวิร์คและปัญหาของนักเตะในทีม ยิ่งล่าสุดมาเจอเคสของ เมสัน กรีนวู้ด ไปอีก เรียกได้ว่าหนักหน่วงเอาการ
ตลาดซื้อขายที่ผ่านมาก็ไม่มีนักเตะขาเข้า ก็ไม่รู้ว่า เฮดโค้ชคนปัจจุบันอย่าง รังนิก จะรับมือไหวไหม ก่อนที่จะส่งไม้ต่อให้กุนซือที่จะมารับช่วงต่อตามที่สื่อได้รายงาน
แม้ผลงานปัจจุบันของทีมนั้น สถิติจะดีขึ้นกว่าตอนที่ยุคของโซลชาคุม สปิริตของทีมเริ่มกลับมาดีขึ้นกว่าเดิม แต่สุดท้ายทีมยังประสบปัญหาเรื่องภายในถึงแม้จะปิดยังไงก็มีกลิ่นตุๆออกมา เหมือนคงต้องรอการเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนขึ้นในฤดูกาลหน้า ความคาดหวังของแฟนๆที่จะเห็นทีมขึ้นมาผงาดอีกครั้งคงต้องใจเย็นและคอยตามเชียร์ต่อไป
ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก ลุ้นสุดมันส์กันต่อ
โปรแกรมการแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ของ 3 ทีมลุ้นแชมป์ที่เหลืออยู่
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เจอกับ เบรนท์ฟอร์ด, นอริชฯ, สเปอร์ฯ, เอฟเวอร์ตัน, แมนยูฯ, พาเลซฯ, ไบร์ทตัน, เบิร์นลี่ย์, ลิเวอร์พูล, วูล์ฟแฮมป์ตัน, วัตฟอร์ด, ลีดส์, นิวคาสเซิลฯ, เวสต์แฮม และ แอสตันวิลล่า
ลิเวอร์พูล เจอกับ เลสเตอร์ ซิตี้, เบิร์นลี่ย์, นอริชฯ, ลีดส์, อาร์เซน่อล, เวสต์แฮม, ไบร์ทตัน, แมนยูฯ, วัตฟอร์ด, แมนซิตี้, แอสตันวิลล่า, เอฟเวอร์ตัน, นิวคาสเซิลฯ, สเปอร์ฯ, เซาแธมป์ตัน และ วูล์ฟแฮมป์ตัน
เชลซี เจอกับ อาร์เซน่อล, พาเลซฯ, เลสเตอร์ ซิตี้, เบิร์นลี่ย์, นิวคาสเซิลฯ, นอริชฯ, เบรนท์ฟอร์ด, เซาแธมป์ตัน, ลีดส์, เวสต์แฮม, เอฟเวอร์ตัน, วูล์ฟแฮมป์ตัน, แมนยูฯ และ วัตฟอร์ด
Puppadinho